ผลบอลศึกไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก

ผลบอล ศึกสปอนเซอร์ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2555 เป็นการพบกันของ “ปลาทูคะนอง” เจนิฟู้ด สุมทรสงคราม เอฟซี เปิดสนาม อบจ. สุมทรสงคราม ต้อนรับการมาเยือนของ“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ท่ามกลางคนรักบอลแม่กลอง ที่ตีตั๋วเข้ามาให้กำลังใจคลับรัก กันแน่นสนาม ซึ่งก่อนเริ่มเกมส์ มีการมอบดอกไม้และของที่นึกถึงเล่นเอานักบอลเหงื่อแห้งกันเลยทีเดียว

นักบอล 11ตัวจริงของ เจ้าบ้าน “ปลาทูคะนอง”โดยกุนซือ ป้ํา วรวรรณ ชิตะวณิช อัดกองหลัง 5 คนเอาไว้รับมือเกมส์รุกที่จัดจ้านของคลับเยือนประกอบไปด้วย ทศพร ศรีเรือง ลงเฝ้าเส้า เอนเนวู ดิวินี่, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, เดชา สอาดโฉม, ฮันกุ๊ก ลี ,วัชรพงษ์ วงษ์ศรีแก้ว ,เจษฎา ภู่เล็ก, ชัยวุฒิ วัฒนะ, ซิเซียนันโด้ โอเดลฟรายเดอร์ และหอกเดียวเป็นคริสเตียน เฮอร์มัน ซาโร่

สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดประกอบไปด้วย ศิวลักษณ์ เทศสูงเนิน แผงหลัง ธีรธร บุญมาทัน, เอกวาล่า เฮอร์มัน, โจเซป โอบาม่า, ปิยะราษฎร์ ลาจังหรีด และ กองกลาง จักรพันธ์ แก้วพรม, อัสคาร์ จาดิเกรอฟ, สุรัตน์ สุขะ, จิรวัฒน์ มัครมย์ ตัวเป้าเป็น สุเชาว์ นุชนุ่น และ แฟรงค์ อาชิมปง

นาที 5 สมาพันธ์เยือนได้ลุ้นก่อนจากลูกฟรีคิก ระยะเพียงแค่ 20 หลาหน้ากลางประตู แต่จิรวัฒน์ปั่นฟรีคิก น่าเสียใจ โดนกำแพงมนุษย์ของ เจ้าถิ่นเด้งออกไป จังหวะต่อเนื่อง บุรีรัมย์ ได้ลุ้นจากฟรีคิกอีกครั้ง แต่ขยับออกมาไกลกว่าเดิม และเป็นจิรวัฒน์ ประชาชนเดิม รับหน้าที่ปั่น บอลพุ่งจะมาแทนทีเสาไกล แต่ ทศพร ศรีเรือง ท่านทวารเจ้าถิ่น พุ่งปัด ออกหลังไปได้ ช่วง 10 นาทีแรก“แชมป์เซาะกราว” เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการครองบอลถล่มพับสนามกดดันบรรจุ เจนิฟู้ด สุมทรสงครามอย่างต่อเนื่อง

นาที 12 เป็นเจ้าถิ่นที่มีโอกาสลุ้นจะจะก่อน เมื่อ จักรพนธ์ แก้วพรม จ่ายบอลพลาด เลยโดน เอกชัย ปรีชากุล โฉบเข้ามาตัดบอลก่อนที่เอกชัย จะลากเข้าไปยิงด้วยขวา แต่รีบร้อนยิงไปหน่อย บอลตรงตัวศิวลักษณ์ รับสบาย นาที 19 “เจ้าโน้ต” จักรพันธ์ แทงลบอลทะลุเหลี่ยมให้ สุรัตน์ ได้หลุดไปยิง บอลโดนน่าช้ำใจข้ามคานออกไป ช่วง 20 นาทีแรกเจ้าบ้าน “ปลาทู”ตั้งจิตตั้งใจพยายามใช้การวิ่งสู้ฟัดสู้กับ เหตุแข็งแกร่ง หรือทักษะความสามารถโดยเฉพาะตัวของ ผู้มาเยือน ทำเอา

นาที29 ฮันกุ๊ก ลี ดาวเตะเลือดเกาหลี จ่ายบอลให้คริสเตียน เฮอร์มัน ซาโร่ ใช้เรื่องแข็งแกร่งลุยแนวรับ บุรีรัมย์ เข้าไปยิงแต่ก็ยังตรงตัว ศิวลักษณ์ นาที 35 กุนซือแต๊ก แก้เกมด้วยจัดหนัก โดยส่ง แฟรงค์ โอฮันด์ซ่า ดาวซัลโวสยามประเทศลีก ฤดูกาลที่แล้ว ลงไปเสริมแนวรุก แทนโจเซป โอบาม่า ช่วงทดเวลาบาดเจ็บกองเชียร์เจ้าบ้านเกือบได้ เฮเมื่อ คริสเตียน เฮอร์มัน กองหน้าเจ้าบ้นา ประสานงานกับ ชัยวุฒิ วัฒนะ ก่อนที่บอลจะมาจบที่คริสเตียน เฮอร์มัน ได้วอลเลย์แต่ศิวลักษณ์ ยังพุ่งรับ บอลไว้ได้ ก่อนที่จะจบครึ่งเวลาแรก เจนิฟู้ด สุมทรสงคราม ยังต้าน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดไว้ได้ บ่อยกันอยู่ 0-0

เริ่มครึ่งเวลาหลัง ลูกทีมโค้ชแต๊กเปิดฉากบุกใส่ ทันที แล้วก็มีลุ้นในนาที 47 เมื่อ อาชิมปง ได้ลุ้นไปยิงแต่ ทศพร ยังไว พุ่งปัดออกหลังไปได้ นาที 50 โค้ชป้ำ ขยับแก้เกมส์บ้าง ด้วยการส่ง ณภัทร ธำรงศุภกร ลงมาแทน เอกชัย ปรีชากุลนาที 57 กุนซือ บุรีรัมย์ แก้เกมส์อีก ด้วยการถอด อัสคาร์ จาดิเครอฟ ที่มีปัญหากับสภาพสนาม ทำให้จังหวะคอนโทลบอลทำได้ไม่ถนัดออกแล้ว แทนที่ด้วย ชารีฟ สายนุ้ย ลงไปเล่นแทน

ผ่าน 1 ชั่วโมงเต็มของเกมส์ เจ้าบ้านมาพลาดเสียจุดโทษ จากจังหวะที่ ธีราทร โยนฟรีคิกไป หน้าประตู แล้วคริสเตียน เฮอร์มัน ซาโร่กองหน้าปลาทูที่ลงไปช่วย Game รับแล้ว สกัดบอลผิดมุมเด้งมาโดนมือเราเอง ผู้ตัดสินเป่าให้เป็น จุดโทษของปราสาทสายฟ้า ทันที และก็เป็น สุเชาว์ ที่ทำรายเข้าไปไม่พลาด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมาขึ้นนำ เจนิฟู้ด สุมทรสงคราม 0-1

นาที 70 “ขุนพลนักรบปราสาทสาทฟ้า” ขยับหนีห่าง ออกไป เมื่อ แฟรงค์ เล็ก ประสานงานทำชิ่งกับ แฟรงค์ ใหญ่ ก่อนที่จะเป็น แฟรงค์เล็ก อาชิมปง ได้หลุดเดี่ยวเข้าไป ยิงผ่านมือ ทศพร ง่ายๆ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนีห่าง เจนิฟู้ด สุมทรสงคราม เอฟซี 0-2

ลูกคลับเสี่ยเน ยิ่งเล่นยิ่งมั่น ใจ เมื่อ แฟรงค์ อาชิมปง โชว์ความสามารถโดยเฉพาะตัว ตะลุยฉีกแนวรับ 4คนของ สุมทรสงคราม ขึ้นไปถนนซ้าย ก่อนจะหักบอลเข้ากลาง ให้แฟรงค์ โอฮันด์ซ่า เข้า ฮอต แต่ไม่โดน บอลเลยไปถึง ชารีฟ สายนุ้ย ตัวสำรอง ได้ยิงง่ายๆ เข้าไป ให้ ยอดสโมสรจากประเทศอีสานใต้หนี สโมสรจาทีมเมียพ่อน้ำเมียพ่อ

นาที 76 เจ้าถิ่นส่งตัวสำรองคนตอนจบด้วยการส่ง ภูวนาท แสงศรี ลงแทน ชัยวุฒิ วัฒนะกับตันสมาพันธ์ โดยหนทางฝั่งทีมเยือน เมื่อได้ประตูนำห่าง คนคุมทีมแต๊ก จึงพักผู้เล่นตัวหลักด้วยการถอดสุเชาว์ ประชาชนยิงประตูต้นออกแล้วส่ง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ลงเล่นแทน พร้อมๆกับ กองเชียร์ปลาทูคะนอง ที่ถอดใจเริ่มทยอยกลับบ้านหลังเห็นสโมสรรัก ถูกกระซวกไปถึง 3 แผล

ก่อนที่เวลาที่เหลือจะไม่มีใครยิงประตูกันได้อีก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมาชนะ เจนิฟู้ด สุมทรสงคราม เอฟซี เก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน ขึ้นนำจ่าฝูงต่อไป